ออสเตรเลีย-อินเดีย พบติดโควิดจากประเทศไทย นายกฯ ห่วงระบาดคุมเข้มกลุ่มผีน้อย แจก 2 พันให้คนจน ภูฏานปิด ปท.14 วัน
นายกฯห่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19
วอนคนจากประเทศเสี่ยงรับผิดชอบสังคม รักตัวเองและรักคนอื่นด้วย
อย่าเที่ยวไปในที่ชุมชน
ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายจังหวัดติดตามตัวผีน้อยที่ไม่ยอมกักตัวเอง
แต่ยังไปในสถานที่ต่างๆมาเจรจาขอความร่วมมือ
สนามบินสุวรรณภูมิยันเฝ้าระวังทุกพื้นที่อย่างเข้มงวด
คนมีไข้หากสายการบินให้ขึ้นเครื่องแล้วมาป่วยที่ไทย
สายการบินต้องจ่ายค่ารักษาทั้งหมด เผยเครื่องบินจากประเทศเสี่ยงลงเพียบ
เจ้าหน้าที่เหนื่อยทำงานหามรุ่งหามค่ำในการคัดกรองผู้โดยสารและให้ผู้ที่เดินทางมาจาก
4 ประเทศเสี่ยงรายงานตัวทุกวันถึงสุขภาพ เพื่อความปลอดภัยจากโรค
ครม.เศรษฐกิจอนุมัติเงินช่วยคนจนกระทบโควิด 2 เดือน ดิ เอ็มควอเทียร์ ดิ
เอ็มโพเรียม ติดตั้งนวัตกรรมระดับโลก “อุโมงค์พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสมรณะ”
ให้ผู้มาใช้บริการมั่นใจปลอดภัยไวรัสอันตราย ภูฏานปิดประเทศ 2
สัปดาห์หลังเจอผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรก
ยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง “ไวรัสโควิด-19” โรคทางเดินหายใจอุบัติใหม่
ที่มีการระบาดจากจีนมากว่า 3 เดือน และไวรัสมรณะดังกล่าวที่โลกกำลังหวาดผวา
ได้ลุกลามแพร่กระจายเป็นวงกว้างในหลายประเทศทั่วโลก
แต่ละวันแต่ละประเทศพบมีผู้ติดเชื้อรายวัน
จนองค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นภัยพิบัติระดับสูงมาก โดยไวรัสโควิด-19
ดังกล่าวนอกจากจะเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของมวลมนุษยชาติแล้ว
ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจนานาประเทศและเศรษฐกิจโลก
ขณะที่ไทยเองก็กำลังหวั่นผวาต่อการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19
ภายหลังพบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 4
รายที่เดินทางมาจากอิตาลีและอิหร่านเมื่อวันที่ 5 มี.ค.รวมทั้งบรรดา
“ผีน้อย” ที่กลับไทยแล้วไม่ยอมกักตัวเองตามคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข
ผีน้อยเกาหลีกักตัวเองอยู่บ้าน
สำหรับผีน้อยสาวไทยที่มีรายงานว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ในเกาหลีใต้นั้น ในเพจชุมชนคนไทยในเกาหลี Thaikuk KR
ซึ่งนำเสนอข้อมูลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และคนไทยในเกาหลี
ได้นำข้อมูลเส้นทางการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของหญิงไทยอายุ 27 ปี ว่า
หญิงไทยโดดวีซ่าลักลอบทำงานอย่างไม่ถูกกฎหมาย
ติดเชื้อมาจากหญิงชาวเกาหลีอายุ 29 ปี ที่เป็นสาวกซินชอนจิ ระหว่างวันที่
25-27 ก.พ. ทำงานที่ร้านซักแห้ง 365 ในพยองฮวาดง เมืองกิมชอน
ตั้งแต่เช้าถึงเย็น มีช่วงเย็นวันที่ 26 ก.พ. ได้ไปซื้อของในมินิมาร์ท
แต่หลังจากมีอาการป่วย วันที่ 28 ก.พ.-3 มี.ค.
ได้กักตัวเองอยู่ในบ้านและเข้าตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลกิมชอนแจอิน วันที่ 5
มี.ค. ผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ออกมาเป็นบวก
ปัจจุบันผู้ติดเชื้อได้แยกกักตัวเองที่บ้านในพยองฮวาดง
โดยต้องกักกันตัวเป็นเวลา 3 สัปดาห์
เพราะมีอาการไม่รุนแรงนักและมีแนวโน้มว่าจะหายได้เพียงแยกตัวออกมากักตัว
แต่อาจจะต้องถูกย้ายไปยังศูนย์ไลฟ์แคร์ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในกิมชอน
ทูตแรงงานกิมจิฉุนสื่อแพร่ข่าว
ขณะเดียวกัน หลังจากสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวผีน้อยรายนี้
โดยอ้างข้อมูลจากเอกสารที่ น.ส.พินยุดา แจ่มจันทร์ศรี อัครราชทูตที่ปรึกษา
(ฝ่ายแรงงาน) ประจำกรุงโซล เกาหลีใต้
ส่งโทรสารด่วนรายงานเหตุการณ์มายังกระทรวงแรงงานและเอกสารถูกเผยแพร่ต่อมาถึงสื่อมวลชนประจำกระทรวง
ก่อนมีการเผยแพร่ออกไปยังสื่อมวลชน สำนักต่างๆ
ได้สร้างความไม่พอใจให้อัครราชทูตคนดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ที่ข้อมูลเป็นข่าวกระจายออกไปก่อนที่จะมีการแถลงหรือชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการ
โพสต์เฟซบุ๊กต่อว่าแรง
โดย
น.ส.พินยุดาได้โพสต์ข้อความตำหนิการทำหน้าที่ของสื่อฯ
ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “Pinyuda Jamjansri” เมื่อเวลา 21.57 น.ของวันที่ 5
มี.ค. ว่า “ไวรัสว่าแพร่กระจายไวแล้วนะ
แต่สื่อนี่กระจายข่าวไวกว่าหลายปีแสง ใช้ชื่อไปประกอบข่าวแบบไม่เคยถาม
บ่อยครั้งมากแถม copy/paste ส่งต่อกันแบบเด็กอนุบาลยังทำได้
พร้อมทั้งติดแฮชแท็ก # สื่อมักง่ายและไร้ความรับผิดชอบ
#แม่ไม่ปลื้มอย่างแรง #ทะลุองศาเดือด แต่ภายหลังในเฟซบุ๊กของ
น.ส.พินยุดาได้ลบแฮชแท็กสื่อมักง่ายและไร้ความรับผิดชอบออกไป
เหตุการณ์นี้สร้างความงุนงงกับสื่อมวลชนประจำกระทรวงแรงงานอย่างมาก
เพราะเป็นการรายงานข้อเท็จจริง และข้อมูลไม่ได้เป็นความลับแต่อย่างใด
ชาวอุทัยเคืองผีน้อยพาลูกกินไก่
ในส่วนการติดตามตัวบรรดา
“ผีน้อย” ที่กลับมาไทยแล้วไม่ยอมกักตัวเองตามคำสั่งของกระทรวงสาธารณสุข
แต่กลับเดินทางไปเที่ยวไปกินตามสถานที่ต่างๆ
จนทำให้ร้านค้าและร้านอาหารที่บรรดาผีน้อยไปทานอาหารต้องปิดร้านทำความสะอาดกันยกใหญ่เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อนั้น
โดยวันเดียวกันนี้มีชาวอุทัยธานีได้พากันแชร์ภาพในเฟซบุ๊กของหญิงสาวผีน้อยรายหนึ่งอยู่ที่
ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง ที่ไม่กักตัวเองแต่กลับออกไปตามแหล่งชุมชน
พร้อมถ่ายภาพโพสต์ลงโซเชียล หลังพาเด็กผู้หญิง
คาดว่าน่าจะเป็นลูกสาวไปกินไก่ทอดที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งสาขาหนองฉาง
เมื่อบ่ายวันที่ 2 มี.ค.
และช่วงเย็นยังไปกินหมูกระทะที่ร้านในตัวอำเภอหนองฉางอีกด้วย
นอภ.นำ จนท.ตามเชิญตัวถึงบ้าน
ต่อมาในวันที่
4 มี.ค. หญิงสาวรายนี้ยังออกมาโพสต์เฟซบุ๊กข้อความว่า “เบื่อมาก
อยู่แต่บ้าน อากาศก็ร้อน เซ็งโว้ย” จนทำให้ชาวโซเชียลพากันแสดงความคิดเห็น
ตำหนิถึงการกระทำดังกล่าว ขณะที่หญิงสาวรายนี้ตอบว่า
ได้กักตัวเองตั้งแต่อยู่ที่เกาหลีและตรวจร่างกายแล้วไม่เป็นอะไร
พร้อมกับกล่าวขอโทษและลบโพสต์ที่กลายเป็นปัญหาทิ้งไป นายสมพจน์
สารภูษิตสันต์ นอภ.หนองฉาง ทราบเรื่อง ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ รพ.หนองฉาง
ไปนำตัวมาที่ รพ.หนองฉาง ทำการกักตัวดูอาการ
จากการตรวจสอบไม่พบมีอาการผิดปกติ
แต่ได้ทำความเข้าใจกับครอบครัวและคนใกล้ชิดถึงสาเหตุที่ต้องกักตัวไว้
ผอ.รพ.แจงพบผู้ป่วยไวรัสมรณะ
ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช
กรณีหนุ่มนักศึกษาไทยชาวมุสลิม จ.นครศรีธรรมราช กลับจากอิหร่านมาบ้านที่
อ.ท่าศาลา แล้วพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นพ.กิตติ รัตนสมบัติ
ผอ.รพ.ท่าศาลา ออกแถลงการณ์ กรณีที่ รพ.ถูกโจมตีว่าปกปิดข้อมูลเรื่องนี้ว่า
การตรวจวินิจฉัยว่าผู้ป่วยเป็นโรคอะไร ต้องได้รับผลตรวจอย่างน้อย 2 วิธี
คือการตรวจด้วยการคัดกรองและการตรวจยืนยันนำมาสรุปร่วมกัน
อีกทั้งการแจ้งผลการตรวจของผู้ป่วยบางกรณี ต้องถือเป็นความลับ
ต้องคำนึงถึงสิทธิของผู้ป่วย
หน้าที่ในการให้ข่าวโรคติดต่อร้ายแรงเป็นอำนาจของผู้บริหารระดับสูง
โรงพยาบาลคำนึงถึงความหวาดระแวง
ตื่นตระหนกและวิตกกังวลของประชาชนจึงเน้นหลักในการป้องกันโรคตามหลักวิชาการทางการแพทย์และสาธารณสุข
พร้อมขอน้อมรับในคำติติงทุกกรณี
เกาะพีพีป่วน “ผีน้อย” หลอน
ที่ จ.กระบี่
กรณีมีหญิงไทยรายหนึ่งโพสต์ภาพและคลิปมาเที่ยวเกาะพีพี
นั่งเรือกับเพื่อนอีก 3 คน พร้อมผู้โดยสารเรือลำนี้จำนวนมากจากภูเก็ต
ไปเกาะพีพี หลังกลับจากเกาหลีใต้ได้ 2 วัน
โดยภายหลังมีโพสต์ดังกล่าวและมีคนแชร์ออกไปจำนวนมาก
ส่งผลกระทบต่อเกาะพีพีอย่างรุนแรง
โดยผู้คนพากันหวาดผวาพร้อมทั้งให้ช่วยติดตามหาตัวหญิงสาวรายนี้ว่ายังอยู่บนเกาะหรือไม่
แต่ยังไม่พบตัว ต่อมาผู้บริหารโรงแรมพีพี โฮเต็ล
ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของโรงแรมว่า
ขอยืนยันหญิงคนนี้ไม่ได้เข้าพักที่พีพี โฮเต็ล หรือพีพี บันยัน วิลล่า
และเพื่อความปลอดภัยความสบายใจของลูกค้าที่มาใช้บริการ
จะทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณล็อบบี้ของโรงแรมทั้งหมด
สั่งห้ามลูกเรือสำราญขึ้นฝั่ง
ขณะที่ จ.ภูเก็ต
ได้มีเรือสำราญชื่อ Costa Fortuna สัญชาติอิตาลี มีผู้โดยสาร 1,631
คนและลูกเรือ 984 คนได้จอดลอยลำที่หาดป่าตอง อ.กะทู้ เมื่อเช้าตรู่วันที่ 6
มี.ค. เรือลำดังกล่าวมีผู้โดยสารเป็นชาวสิงคโปร์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี
โดยกำหนดการเดิมอนุญาตให้เรือลำดังกล่าว
ส่งผู้โดยสารขึ้นฝั่งเข้าท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ตามอัธยาศัย
แต่จังหวัดภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้องประเมินแล้วเห็นว่า
ผู้โดยสารในเรือลำดังกล่าว อาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19
จึงไม่อนุญาตให้ลูกเรือและผู้โดยสารขึ้นฝั่ง
ให้เรือลำนี้ลอยลำอยู่กลางทะเลได้ในระยะห่างจากฝั่งประมาณ 2 ไมล์ทะเล
และให้เดินทางออกจากพื้นที่ตามกำหนดในวันที่ 7 มี.ค.
กักตัว 7 คนไทยจากพื้นที่เสี่ยง
ที่
จ.สุรินทร์ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.สุรินทร์ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า
เมื่อวันที่ 5 มี.ค.
ชุดเคลื่อนที่เร็วได้ติดตามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยง
ขอความร่วมมือกักตัวตามมาตรการควบคุมโรคที่ รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธิน
อ.เมืองสุรินทร์ จำนวน 6 คน และเมื่อวันที่ 4 มี.ค.
นำตัวผู้ที่เดินทางจากเกาหลีใต้กักตัวอีก 1
คนที่เดียวกันโดยอยู่ในความดูแลของแพทย์ รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธิน
ทั้งหมดยังไม่มีอาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
มีเพียงรายเดียวที่เป็นเด็กและมีไข้ เนื่องจากเด็กเพิ่งให้วัคซีน
จึงแยกตัวเด็กจาก รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธินไปอยู่ในความดูแลของแพทย์
รพ.สุรินทร์และเหล่ากาชาดจังหวัดได้ดูแลทั้ง 7
คนอย่างดีเพราะไม่ได้มีความผิดอะไรและไม่ใช่คนป่วย
รับตัวสาวป่วนกับสามีส่งตรวจ
ที่ศูนย์เฝ้าระวังการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
รพ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับการประสานจากนายกิตติศักดิ์ บุญจันทร์
เจ้าหน้าที่ศูนย์กู้ภัยแม่กื้ดหลวง อ.แม่สอดว่า
มีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อเป็นหญิงอายุ 35 ปี อยู่ ต.แม่กาษา อ.แม่สอด
เพิ่งเดินทางกลับจากเกาหลีใต้และออกจากบ้านไปตามสถานที่ต่างๆหลายแห่งโดยไม่มีการกักตัวเอง
14 วัน สร้างความวิตกกังวลแก่เพื่อนบ้าน
อีกทั้งผู้ต้องสงสัยได้โพสต์รูปการเดินทางตามสถานที่ต่างๆ
และถูกชาวโซเชียลตำหนิถึงความรับผิดชอบต่อสังคม จนหญิงสาวรายนี้รู้สึกผิด
ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ให้มารับตัวไปตรวจร่างกาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ
สวมชุดป้องกันปลอดเชื้อไปรับตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้กับสามีนำส่ง
รพ.แม่สอดเพื่อเฝ้าระวังอาการ
โผล่มอบตัว–ยอมให้กัก 14 วัน
ผีน้อยหญิงอีกรายที่โพสต์ภาพ
ไปนั่งกินหม่าล่าปิ้งย่าง ที่ร้านฟังกี้กริลล์ ถนนห้วยแก้ว ต.สุเทพ
อ.เมืองเชียงใหม่ จนทางร้านต้องปิดทำความสะอาดกันยกใหญ่ทั้งคืน
และหญิงคนดังกล่าวยังไปเที่ยวต่อที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งจนกลายเป็นเรื่องที่ชวนวิตกกังวลและสถานบันเทิงได้ระดมทำความสะอาด
เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะ ต่อมา นพ.จตุชัย มณีรัตน์
สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
ประสานกับตำรวจตามตัวจนพบผีน้อยรายนี้และเจ้าตัวมารายงานตัวที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
แพทย์ตรวจร่างกาย ไม่มีไข้ ไม่เจ็บคอ แต่มีน้ำมูกและไอ อุณหภูมิร่างกาย
36.8 องศา
เจ้าตัวบอกว่าเป็นภูมิแพ้ก่อนไปเกาหลีและให้ความร่วมมือยอมกักตัวเอง
ไร้ติดเชื้อใหม่นอกอู่ฮั่น
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน
แถลงยอดผู้ป่วยติดเชื้อและเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 6 มี.ค.
ว่า ข้อมูล ณ วันที่ 5 มี.ค. ผู้ติดเชื้อในจีนอยู่ที่ 80,552 คน เสียชีวิต
3,042 คน ส่วนใหญ่อยู่ที่อู่ฮั่น และในรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมา นอกจากในอู่ฮั่น
126 คนแล้ว ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่อื่นๆของมณฑลหูเป่ย
ด้านเจ้าหน้าที่ในหลายมณฑลของจีนรวมทั้งชิงไห่ และกุ้ยโจว
ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่องมาพักใหญ่แล้ว
เริ่มมีการหารือเรื่องกำหนดวันเปิดโรงเรียน
โดยที่ชิงไห่จะเริ่มเปิดโรงเรียนระหว่างวันที่ 11-20 มี.ค.
ส่วนกุ้ยโจวจะเริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.
เกาหลีใต้ดับแล้ว 42 ศพ
สำหรับเกาหลีใต้
มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดนอกประเทศจีน โดยเมื่อวันที่ 6 มี.ค.
ผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 6,593 คน ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 42 คน โดยผู้ติดเชื้อ 90%
อยู่ที่เมืองแทกูและจังหวัดคยองซังเหนือ
และส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับกลุ่มศาสนิกชนของโบสถ์คริสต์ชินชอนจี
ด้านญี่ปุ่นเผชิญการระบาดรุนแรงไม่แพ้กัน มีผู้ติดเชื้อแล้ว 360 คน
เสียชีวิตมี 6 คน
อินเดียเจอป่วยจากไทย
ที่ประเทศภูฏาน
ดินแดนมังกรสายฟ้า มีการประกาศเมื่อวันที่ 6 มี.ค.
ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าราชอาณาจักรนาน 2 สัปดาห์
หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คนแรก เป็นนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน วัย 79
ปี เพิ่งเดินทางมาจากอินเดียเมื่อ 2 มี.ค.
กำลังถูกกักกันอยู่ที่โรงพยาบาลในกรุงทิมพู
รัฐบาลภูฏานยังสั่งปิดโรงเรียนหลายแห่ง เลื่อนงานประชุมและสัมมนาเป็นเวลา 2
สัปดาห์ด้วย วันเดียวกัน อินเดียยืนยันยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19
เพิ่มขึ้นเป็น 31 คน หลังพบผู้ติดเชื้อ 2 รายล่าสุดในกรุงนิวเดลี
และมีประวัติเดินทางไปจากไทยและมาเลเซีย